โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke) สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตที่คร่าชีวิตคนไทยมากเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเป็นภาวะที่สมองขาดออกซิเจนและเลือดไปเลี้ยงอันเกิดจากการอุดตันของเส้นเลือดที่ลำเลียงเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนต่างๆ จึงทำให้สมองขาดเลือดและขาดออกซิเจน ทำให้ผู้ป่วยบางรายเป็นอัมพาตตลอดชีวิตหรือร้ายแรงจนเสียชีวิตกะทันหันได้
โรคหลอดเลือดในสมองตีบเกิดจากอะไร?
โรคหลอดเลือดในสมองตีบ เกิดจากภาวะที่สมองขาดเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยง จนเกิดความเสียหายและทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมอวัยวะและระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของหลอดเลือด ได้แก่
- การตีบของเส้นเลือด จากการที่มีไขมันเกาะอยู่ตามผนังด้านในของหลอดเลือดสมอง ทำให้หลอดเลือดแคบลงและขาดความยืดหยุ่น
- ลิ่มเลือดแข็งตัว มีลิ่มเลือดขนาดเล็กเกาะที่ลิ้นหัวใจและผนังหัวใจปะปนไปตามกระแสเลือดจนไปอุดตันในหลอดเลือดสมอง ส่วนใหญ่มักพบในผู้ป่วยโรคหัวใจโต ผนังหัวใจรั่ว ลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว
- การฉีกขาดของผนังหลอดเลือดด้านใน
- เส้นเลือดแข็งตัวเร็วเกินไป จากการที่เลือดขาดสารบางอย่าง มีเม็ดเลือดแดงหรือเกร็ดเลือดมากเกินไป จนทำให้เลือดมีความผิดปกติและอุดตันในที่สุด
โรคหลอดเลือดในสมองตีบมีอาการอย่างไร?
ผู้ป่วยหลายคนมักไม่ทันสังเกตตนเองว่ามีความผิดปก เนื่องจากอาการเตือนของโรคหลอดเลือดในสมองตีบมีระยะเวลาที่ค่อนข้างสั้นหรือเกิดขึ้นอย่างฉับพลันแบบไม่ทันตั้งตัว โดยอาการเบื้องต้นที่สังเกตได้ เช่น
- ปวดหัว สายตาพร่ามัว
- คลื่นไส้ อาเจียน
- มีอาการพูดไม่ชัด พูดติดขัด
- รู้สึกชาตามตัว แขนขาอ่อนแรงหรือขยับไม่ได้หรือเดินเซ
อาการเหล่านี้เป็นอาการนำของโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ซึ่งดูเหมือนเป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจงและยากที่จะบ่งบอกได้ว่าเป็นอาการนำของโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ผู้ป่วยหรือบุคคลใกล้ชิดจึงต้องสังเกตอาการและประวัติสุขภาพของผู้ป่วยร่วมด้วย หากผู้ป่วยมีปัจจัยเหล่านี้อาจเสี่ยงโรคหลอดเลือดในสมองตีบและต้องพาผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยด่วน
- ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ตั้งแต่ 160/90 mmHg มาเป็นระยะเวลานาน
- ป่วยเป็นโรคเบาหวาน อาจทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบตันได้
- ป่วยเป็นโรคหัวใจ อาจเป็นสาเหตุให้มีลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันในเส้นเลือดสมอง
- มีไขมันในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดในสมองอุดตันเร็วกว่าปกติ
- ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพราะในบุหรี่มีสารนิโคตินและคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนลดลงและทำลายผนังหลอดเลือดได้
- กรรมพันธุ์ หรือบุคคลในครอบครัวเคยมีประวัติเส้นเลือดในสมองตีบ
- ฮอร์โมนบางชนิด ส่วนมากพบในฮอร์โมนเพศหญิงที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้หลอดเลือดดำในสมองอักเสบได้
- ผู้สูงอายุ จากอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ห้หลอดเลือดเสื่อมสภาพลงตามไปด้วย
การรักษาโรคหลอดเลือดในสมองตีบ
สิ่งที่ทำให้การรักษาโรคหลอดเลือดในสมองตีบประสบความสำเร็จได้คือการยืดระยะเวลาของเซลล์สมองให้อยู่ได้นานมากที่สุด โดยทำให้เลือดไหลเวียนได้ทันเวลาในปริมาณที่เพียงพอก็จะสามารถทำให้เซลล์สมองฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ เมื่อผู้ป่วยเกิดอาการเส้นเลือดในสมองตีบตามอาการแสดงที่กล่าวไปข้างต้นให้รีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดหรือภายใน 3 ชั่วโมง โดยแพทย์จะให้ยาสลายลิ่มเลือด (Thrombolysis) และทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลตามขั้นตอน
- รักษาด้วยยา เพื่อรักษาเซลล์สมองและเฝ้าระวังโรคแทรกซ้อน
- กายภาพบำบัดในผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต โดยฝึกเคี้ยวและกลืนอาหาร ฝึกนั่ง เดิน ยืน รวมถึงจิตบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้าร่วมด้วย
- ฟื้นฟูร่างกายและติดตามอาการ เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข
หากใครที่สังเกตตนเองได้ว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดโรคหลอดเลือดในสมองตีบได้ในอนาคต สามารถป้องกันตนเองได้โดยการทานยาตามที่แพทย์สั่งหากมีโรคประจำตัว ควบคุมน้ำหนักและรักษารูปร่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอและทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อเช็กความผิดปกติของร่างกายและอย่าชะล่าใจหากร่างกายยังแข็งแรง ควรทำประกันสุขภาพที่ครอบคลุมโรคหลอดเลือดในสมองตีบไว้อุ่นใจยามฉุกเฉิน สามารถเข้าไปเลือกแผนประกันสุขภาพได้ที่ Rabbit Care มีบริการโทรปรึกษาแพทย์แบบไม่ต้องไปโรงพยาบาล สามารถเปรียบเทียบแผนจ่ายออนไลน์โดยไม่ต้องติดต่อตัวแทนขายได้ที่ https://rabbitcare.com/health-insurance