ในช่วงนี้หลายคนเริ่มอยากออกไปท่องโลกกว้างเดินทางเที่ยวต่างประเทศ แต่อาจยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับเงื่อนไขที่ต้องกักตัวอย่างน้อย 7 วันและค่าใช้จ่ายระหว่างกักตัวเมื่อเดินทางเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งวันนี้ข่าวดีล่าสุด คือ หลายประเทศอนุญาติให้เข้าไปเที่ยวในประเทศได้แล้วโดยไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป จะมีประเทศอะไรและเงื่อนไขอย่างไรบ้าง มาดูกัน!
1. สิงคโปร์
ประเทศยอดฮิตที่ผู้ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงนี้ เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศแรกๆ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2565 เป็นต้นมา โดยมีเงื่อนไขง่ายๆ ได้แก่
- ได้รับวัคซีนที่ได้รับการรับรองโดย WHO ครบโดสอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางและไม่จำเป็นต้องทำประกันโควิด
- มีผลตรวจหาโควิดเป็นลบก่อนการเดินทางไม่เกิน 2 วัน โดยใช้ผลการตรวจแบบ RT-PCR หรือ ATK ก็ได้
- ผู้ที่ได้รับวัคซีนยังไม่ครบโดสก็สามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้ โดยต้องแสดงเอกสาร หลักฐานว่าร่างกายไม่พร้อมรับวัคซีนหรือแสดงเความจำเป็นในการเดินทางเข้าประเทศ รวมทั้งต้องมีประกันโควิดวงเงินคุ้มครองตั้งแต่ 30,000 SGD
2. เวียดนาม
หนึ่งในประเทศใกล้ไทยที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยไม่กักตัวตั้งแต่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นมาและยังยกเลิกข้อกำหนดแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด รวมถึงยกเลิกข้อกำหนดการคัดกรองสุขภาพในกลุ่มนักเดินทางระหว่างประเทศขาเข้าอีกด้วย แถมล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ยังมีรายงานว่าเวียดนามได้ยกเลิกข้อกำหนดการตรวจโรคโควิดก่อนเดินทางมาเวียดนามโดยไม่ต้องยื่นเอกสารผลตรวจโควิดใดๆ โดยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้
- ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน Vaccine Passport หรือ National Certificate Vaccination
- มีประกันโควิดวงเงินคุ้มครอง 50,000 USD
3. เกาหลีใต้
สาวกแดนกิมจิก็เตรียมแพ็คกระเป๋าเดินทางเที่ยวต่างประเทศได้เลย เพราะเกาหลีใต้เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวแล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา อีกทั้งล่าสุดยังยกเลิกคำสั่งกักตัว 7 วัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไปอีกด้วย เพียงแต่จะต้องแสดงผลตรวจโควิดที่เป็นลบด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทาง โดยมีใบรับรองจากสถานพยาบาลเป็นภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษ และต้องตรวจอีกครั้งภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากเดินทางมาถึงเกาหลีใต้
ก่อนเตรียมตัวเดินทางนักท่องเที่ยวทั้งหลายจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้ด้วย
- ลงทะเบียนผ่านระบบ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ล่วงหน้าภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางและยื่นหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือหลักฐานการหาย จากโควิด
- ผู้ที่ได้รับวัคซีน Johnson & Johnson 1 เข็ม หรือวัคซีนอื่นๆ ที่ได้รับการรับรองจาก WHO ภายใน 14-180 วัน ไม่จำเป็นต้องกักตัว 7 วันและไม่ต้องทำประกันโควิด
- ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือผู้ที่เดินทางจากประเทศเมียนมาร์ ปากีสถาน อุซเบกิสถานและยูเครน ยังคงต้องกักตัว 7 วัน แม้ว่าจะได้รับวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตาม
4. ญี่ปุ่น
ใครที่กำลังรอคอยการเดินทางเที่ยวต่างประเทศที่แดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นต้องมีเฮ เพราะเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมาสำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (JTA) ได้ออกประกาศว่าญี่ปุ่นจะเริ่มอนุญาติให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามแผนทดสอบการท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ “Test Tourism” ก่อนกลับมาเปิดให้ท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ญี่ปุ่นอนุญาติให้ท่องเที่ยวได้ในลักษณะกรุ๊ปทัวร์ขนาดเล็กและได้รับการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม โดยไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องตรวจ RT-PCR ที่สนามบินญี่ปุ่นและไม่ต้องแสดงเอกสาร Vaccine Certificate เพียงแต่มีเงื่อนไขสำคัญดังนี้
- ต้องเดินทางเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ที่มีไกด์เท่านั้น
- ต้องทำประกันโควิด (ไม่ระบุวงเงิน)
- สามารถท่องเที่ยวได้เฉพาะจังหวัดที่อนุญาตและไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน
- ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาแล้ว 3 เข็ม ได้แก่ Pfizer, Moderna และ Novavax แต่หาก 2 เข็มแรกเป็น AstraZeneca หรือ Covaxin เข็มที่ 3 ต้องเป็น Pfizer, Moderna, Novavax และ 1 เข็ม สำหรับผู้ที่ได้รับ Johnson & Johnson
นี่เป็นเพียง 4 ประเทศในเอเชียที่เปิดให้เที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัวและยังอยู่ใกล้ประเทศไทย สามารถเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งยังมีอีกหลายประเทศที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศแล้ว หากใครที่อัดอั้นอยากไปเที่ยวต่างประเทศแล้วอย่าลืมเช็กเงื่อนไขและเตรียมเงินเผื่อสำหรับค่าเดินทางและค่าช้อปปิ้งไว้ด้วย โดยสามารถทำบัตรเครดิตกับ Rabbit Care พกติดตัวไว้ใช้จ่ายในต่างประเทศ แถมยังครอบคลุมไปถึงค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย สามารถเข้าไปเลือกบัตรเครดิตที่ใช่และเหมาะกับสไตล์ของตนเองได้ที่ Rabbit Care